- ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีกี่แนวทาง อะไรบ้าง
ตอบ 3 แนวทาง ได้แก่
1.ศาสตร์แห่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อการรักษาโรค เป็นโรค แล้วค่อยรักษา
- ศาสตร์แห่งการป้องกันโรค เวชศาสตรอายุรวัฒน์ (Anti-aging Medicine) ป้องกัน ไม่ต้องรักษา
- นวัตกรรมทางการแพทย์แห่ง โลกอนาคต สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้
- สเต็มเซลล์ (Stem Cell) คืออะไร
ตอบ สเต็มเซลล์ (Stem Cell) หรือเซลล์ต้นกำเนิด คือ เซลล์ที่ยังไม่มีการพัฒนาเป็นเซลล์ชนิดใดที่ทำหน้าที่เฉพาะ มีความสามารถในการแบ่งตัว และเพิ่มจำนวนตัวเองได้ สามารถพัฒนาเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่เฉพาะเจาะจง ภายใต้สภาวะที่ถูกกำหนด ควบคุมให้สามารถเจริญเติบโตไปเป็น เนื้อเยื่อ อวัยวะต่างๆ กระดูก สามารถพัฒนาซ่อมแซมระบบภูมิคุ้มกัน สามารถพัฒนาให้ทดแทนเซลล์ที่ถูกทำลายจากการบาดเจ็บ หรือจากโรคร้ายแรงต่างๆ ได้
- สเต็มเซลล์นำมาจากไหนได้บ้าง
ตอบ 1. สเต็มเซลล์จากตัวอ่อน (Embryonic Stem Cells) เมื่อเกิดการปฏิสนธิ สเปิร์มผสมกับไข่แล้ว จะมีการพัฒนาไปเป็น ตัวอ่อน หรือที่เรียกว่า เอ็มบริโอ (embryo)เซลล์จะเริ่มแบ่งตัวเพิ่มจำนวนจากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสี่ สี่เป็นแปด และแบ่งต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้กลุ่มเซลล์ตัวอ่อนระยะ 3-5 วัน ที่มีรวมกันประมาณ 150 เซลล์ เรียกว่า ระยะบลาสโตซิสต์ (blastocyst) ภายในเซลล์บลาสโตซิสต์นี้มีกลุ่มเซลล์ที่เรียกว่า มวลเซลล์ชั้นใน (inner cell mass) หรือ กลุ่มเซลล์ที่อยู่ชั้นใน ซึ่งมีจำนวนเซลล์ประมาณ 30 เซลล์ ซึ่งมวลเซลล์นี้เองที่นักวิทยาศาสตร์ ถือว่าเป็น สเต็มเซลล์
- สเต็มเซลล์จากตัวเต็มวัย (Adult Stem Cells) บางครั้งเรียกว่า สเต็มเซลล์จากร่างกาย หรือ เซลล์ที่เจริญวัยเต็มที่แล้ว คือ สเต็มเซลล์ทุกชนิดที่พบในอวัยวะต่างๆ นับตั้งแต่เมื่อคน หรือสัตว์คลอดออกมาจากครรภ์ เป็นสเต็มเซลล์ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์อื่นๆได้หลายชนิด (Multipotency) ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดและแหล่งที่มาของสเต็มเซลล์ชนิดนั้นๆ
- แหล่งที่พบสเต็มเซลล์จากตัวเต็มวัย ได้แก่
ตอบ เลือด (Peripheral blood) ไขกระดูก (Bone marrow) เลือดจากสายสะดือ (Cord blood) รก (Placenta) ไขมัน (Adipose tissue) ฟันนํ้านม (Baby teeth) และฟันคุด (Impacted Tooth)
- สเต็มเซลล์สามารถรักษาโรคใดได้บ้าง
ตอบ สเต็มเซลล์มีศักยภาพที่จะพัฒนาไปเป็นเซลล์อวัยวะใดก็ได้ใน 220 ชนิด ถ้าเราสามารถเอามันไปใส่ในคนที่อวัยวะเสื่อมเพราะโรค และบังคับมันให้แบ่งตัวขึ้นมาทำงานแทนที่ หรือซ่อมแซมอวัยวะที่เสียหายได้ก็จะสามารถใช้มันรักษาโรคได้ เมื่อเร็วๆ นักวิทยาศาสตร์ ค้นพบ วิธีทำการกระตุ้นสเต็มเซลล์ให้พัฒนาไปเป็นเซลล์อวัยวะได้หลายชนิดเช่น เซลล์หัวใจ เซลล์ผิวหนัง ทีเซลล์ (เซลล์สร้างภูมิต้านทาน) เซลล์เหล่านี้มีศักยภาพที่เมื่อ ฉีดมันเข้าไปในอวัยวะที่เสื่อม ก็สามารถงอกขึ้นมาทดแทนเซลล์ของอวัยวะนั้นได้ นักวิทยาศาสตร์จึงมีความมั่นใจว่า ต่อไปจะสามารถเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์เหล่านี้ไปรักษาโรค ที่ปัจจุบันไม่มีทางรักษาได้
- นาโนเทคโนโลยี ทางการแพทย์ (NanoMedicine) มีเป้าหมายที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ ประการที่หนึ่ง – เพื่อเป็นเครื่องมือใหม่ในการศึกษากระบวนการสรีรวิทยาที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์ทั้งหมดโดยใช้แนวทาง Nanotechnology และประยุกต์ใช้ศึกษาความผิดปกติที่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิดที่รู้จักกันในปัจจุบันรวมทั้งโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุ เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการวินิจฉัยโรค
ประการที่สอง – ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ยากที่สุดที่จะเกิดขึ้น เรียกว่า “Nanorobots” อาศัยความรู้ชั้นสูง ของวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เช่น ชีวเคมี ร่วมกับความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ สาขาหุ่นยนต์ หรือเครื่องจักรกล
- หุ่นยนต์ทางการแพทย์ ได้แก่
ตอบ 1. หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัด 2. หุ่นยนต์ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพคนพิการ
- หุ่นยนต์ทางการแพทย์ที่นิยม ในปัจจุบันคือ อะไร
ตอบ หุ่นยนต์ดาวินชี (Da Vinci)
- หลักการทำงานของ หุ่นยนต์ดาวินชี (Da Vinci) เป็นอย่างไร
ตอบ หลักการทำงานของระบบหุ่นยนต์ดาวินชี นั้นจะมีแขนกลซ้ายขวาของหุ่นยนต์จะถูกควบคุมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่านทางก้านควบคุม (joystick)
- การผ่าตัดแบบเจาะช่องขนาดเล็ก มีข้อดี ข้อด้อย อย่างไร
ตอบ ข้อดี
- ลดความเจ็บปวดของคนป่วย
- การเสียเลือดน้อยกว่า
- ระยะการพักฟื้นเร็วกว่า
ข้อด้อย
- ข้อจำกัดในการมองเห็นภายในอวัยวะ ซึ่งแพทย์ได้รับจากกล้องขนาดเล็ก
- แพทย์ไม่สามารถรับแรงปฏิกิริยาตอบโต้จากก้านควบคุมแขนกลในขณะที่อวัยวะสัมผัสกับแขนกลของหุ่นยนต์ และยากที่จะควบคุมแรงของแขนกลไม่ให้กระทบกับอวัยวะใกล้เคียง อาจจะทำให้แขนกลอาจจะไปทำลายอวัยวะในขณะปฏิบัติการได้
- จำเป็นต้องใช้แพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น



